วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ



บทที่ 5
สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

          การศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทานผู้ศึกษาได้สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ดังนี้
           1.  วัตถุประสงค์ของการศึกษา
           2.  ขอบเขตของการศึกษา
           3.  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
           4.  วิธีการดำเนินการศึกษา
           5.  สรุปผลการศึกษา
           6.  อภิปรายผลการศึกษา
           7.  ข้อเสนอแนะ

1.  วัตถุประสงค์ของการศึกษา
           1. เพื่อศึกษาพระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทาน
           2. เพื่อศึกษาหลักและวิธีการดำเนินงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ
           3. เพื่อศึกษาประเภทของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
                   -  โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกและอุปโภค – บริโภค
                   -  โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการรักษาต้นน้ำลำธาร
                   -  โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้า
                   -  โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
                   -  โครงการระบายน้ำแก้มลิง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลตามพระราชดำริ “แก้มลิง
                   -  โครงการบำบัดน้ำเสีย
                   -  โครงการแก้ไขปัญหาน้ำแห้งแล้ง
           4. เพื่อศึกษาประโยชน์ของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

2.  ขอบเขตของการศึกษา
           เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทานประกอบด้วย
           1. พระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทาน
           2. หลักและวิธีการดำเนินงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ
           3. ประเภทของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
               3.1 แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภค              
               3.2 แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการรักษาต้นน้ำลำธาร
               3.3 แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ
               3.4 หลักการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่ม โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
               3.5 หลักการของการระบายน้ำแก้มลิง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลตามพระราชดำริ แก้มลิง
               3.6 วิธีการบำบัดน้ำเสีย
               3.7 แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำแห้งแล้ง
           4. ประโยชน์ของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
                   ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาคือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม พ.. 2559 ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.. 2560 จำนวน 20 สัปดาห์

3.  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
           เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่
           1. เอกสารตำราอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทาน
           2. ศึกษาจากเว็บไซต์ http://3king.lib.kmutt.ac.th

4.  วิธีการดำเนินการศึกษา
            1. เลือกหัวข้อของการศึกษา
           2. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาคือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม พ.. 2559 ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.. 2560 จำนวน 20 สัปดาห์

5.  สรุปผลการศึกษา
           1. ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา หลังจากที่มีพระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทาน ทำให้เป็นประโยชน์สำหรับประชาชนในชนบทรวมทั้งตามท้องถิ่นทั่วๆ ไป ให้มีน้ำกินน้ำใช้และจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร หรือในกรณีที่ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาลเป็นประจำ ให้สามารถยืนหยัดหรือพัฒนาตนเอง และครอบครัวจนมีฐานะ “ พออยู่ พอกิน ” ในขั้นแรกไปถึงขั้น “ มีกิน มีใช้ ” ในที่สุด โดยปกติแล้วโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จะมีลักษณะโครงการพื้นฐานในการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเกี่ยวกับน้ำเป็นหลัก ซึ่งเกิดขึ้นจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรตามหมู่บ้านต่างๆทั่วทั้งประเทศนั้นเอง
           2. หลักและวิธีการดำเนินงานต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำนั้น พระองค์ทรงพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ ความเหมาะสมเกี่ยวกับสภาพแหล่งน้ำ และยังพิจารณาถึงความเหมาะสมในทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย ทรงเหลีกเลี่ยงการเข้าไปสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับคนกลุ่มหนึ่ง และสร้างประโยชน์ให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะแบบนี้การทำงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำทุกที่จึงทรงมีพระราชดำริกับราษฎรในหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนช่วยเหลือเกื้อกูลกันภายในสังคมของตนเอง และมีความหวงแหนที่จะต้องดูแลรักษาบำรุงสิ่งก่อสร้างนั้นต่อไป
           3. ประเภทของโครงการ มีหลากหลายรูปแบบที่ช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนในด้านต่างๆกันออกไป ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม และมีประโยชน์ต่อประชาชนในบริเวณที่มีการจัดตั้งโครงการเป็นอย่างมาก
           4. แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภค เป็นโครงการที่มีมากกว่าโครงการประเภทอื่นๆ ในแต่ละท้องถิ่นจะมีลักษณะโครงการที่แตกต่างกันไปนั้น ต้องมีการวางแผนโครงการและก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและแหล่งงน้ำสำหรับแต่ละท้องถิ่นเสมอ
           5. แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการรักษาต้นน้ำลำธาร เป็นโครงการสร้างฝายขนาดเล็กเป็นระยะๆ ทางต้นน้ำของลุ่มน้ำต่างๆ เพื่อเก็บน้ำไว้ในลำน้ำคล้ายกับอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก เพื่อให้น้ำที่เก็บกักไว้ซึมเข้าไปในดินตามตลิ่งและท้องน้ำ เป็นการช่วยเพิ่มจำนวนน้ำให้ถูกเก็บกักไว้ในดินที่บริเวณต้นน้ำลำธาร เพื่อความชุ่มชื้นของพื้นที่ให้ได้ระยะเวลานานขึ้น ซึ่งจะช่วยในการอนุรักษ์ป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธารได้เป็นอย่างดี มีแนวคิดในการอนุรักษ์น้ำตามวัฏจักรน้ำตามธรรมชาติ แนวคิดในการป้องกันอันตราย ลดภัยที่เกิดจากความรุนแรงของการไหล่บ่าของน้ำ ทีส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและพื้นที่เพาะปลูก แนวคิดในการใช้ประโยชน์น้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเพาะปลูก ด้านการอุตสาหกรรม พัฒนาระบบนิเวศน์การเกษตร การพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำลำธาร
           6. แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ พระองค์ทรงมีความสนใจในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้าสำหรับชนบทที่อยู่ห่างไกล จึงมีการจัดวางโครงการและจัดการก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กในชนบทหลายแห่งในภาคเหนือ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ ประกอบด้วยงานสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ โดยสภาพภูมิประเทศบริเวณที่จะสร้างเขื่อนและโรงผลิตกระแสไฟฟ้านั้น ต้องมีระดับความสูงแตกต่างกันมาก ซึ่งน้ำที่ส่งลงมาตามท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำในระดับสูงนั้นสามารถหมุนเครื่องกังหันสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าได้ และน้ำที่ผ่านการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นก็นำไปใช้ในการเพาะปลูกและการอุปโภค บริโภคต่อไปอีกด้วย
           7. หลักการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่ม โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จะเป็นการแก้ไขปัญหาหรือบรรเทาน้ำท่วมเฉพาะบริเวณ อาจทำให้เกิดผลกระทบหรือเพิ่มความเสียหายให้กับพื้นที่ทางด้านท้ายลำน้ำลงไปก็ได้ จึงต้องมีการพิจารณาในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม
           8. หลักการของการระบายน้ำแก้มลิง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลตามพระราชดำริ แก้มลิง มีลักษณะงานเป็นการระบายน้ำออกจากพื้นที่ตอนบน ไปตามคลองในแนวเหนือ-ใต้ ลงคลองพักน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณชายทะเล ซึ่งเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงต่ำกว่าระดับน้ำในคลอง ก็จะระบายน้ำจากคลองดังกล่าวออกทางประตูระบายน้ำ โดยวิธีใช้แรงโน้มถ่วงของโลก (gravity) และสูบน้ำออกเพื่อให้น้ำในคลองพักน้ำมีระดับต่ำที่สุด ซึ่งจะทำให้น้ำจากคลองตอนบนไหลลงสู่คลองพักน้ำได้ตลอดเวลา แต่เมื่อระดับน้ำทะเลสูงกว่าระดับน้ำในคลองก็จะปิดประตูระบายน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับ
           9. วิธีการบำบัดน้ำเสีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีความสนใจในการแก้ไขและบำบัดน้ำเสียในชุมชนเขตกรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทดลองหาทางแก้ไข และบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการง่ายๆและเหมาะสม ตอนนี้การบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการต่างๆได้ส่งผลเป็นที่น่าพอใจและได้เผยแพร่ไปยังพื้นที่ต่างๆมากขึ้น
           10. โครงการแก้ไขปัญหาน้ำแห้งแล้ง และการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรกรรมปัญหาของน้ำที่จะเกิดขึ้นของประเทศไทยในอนาคต เนื่องจากเกิดปัญหาน้ำท่วมกับปัญหาน้ำแล้งสลับกันไปตลอดเวลา สร้างความเสียหายให้แก่ภาคการเกษตรและประชาชนอย่างมาก จำเป็นจะต้องสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อเป็นแหล่งต้นทุนน้ำในกรมชลประทานด้านการเกษตรและป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน
           11. ประโยชน์ของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากที่ราชการต่างๆ ได้ก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสนองพระราชดำริมาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริสามารถให้ประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติเป็นส่วนรวม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในด้านต่างๆ ทำให้พื้นที่เพาะปลูกจำนวนมากในเขตโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกมีน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์ สามารถทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน ฤดูแล้ง

6.  อภิปรายผลการศึกษา
           การศึกษาโครงการพระราชดำริ พระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทานอภิปรายผลได้ดังนี้
           1. พระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทาน งานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อประโยชน์สำหรับประชาชนในชนบทรวมทั้งตามท้องถิ่นทั่วๆ ไป ให้มีน้ำกินน้ำใช้และจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร ตลอดจนเพื่อประโยชน์อื่นๆ อีกหลายด้านหรือในกรณีที่ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาลเป็นประจำ ให้สามารถยืนหยัดหรือพัฒนาตนเอง และครอบครัวจนมีฐานะ “ พออยู่ พอกิน ” ในขั้นแรกไปถึงขั้น “ มีกิน มีใช้ ” โดยปกติแล้วโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จะมีลักษณะโครงการพื้นฐานในการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเกี่ยวกับน้ำเป็นหลัก ซึ่งเกิดขึ้นจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรตามหมู่บ้านต่างๆทั่วทั้งประเทศนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยในความทุกข์ยากของราษฎร เกี่ยวกับการทำมาหากินเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทรงทราบว่า น้ำ เป็นปัจจัยอันสำคัญ และเป็นความต้องการอย่างมากของราษฎรส่วนใหญ่ในชนบท พระองค์จึงทรงทุ่มเทพระราชหฤทัยในด้านงานพัฒนาแหล่งน้ำตลอดมา ในที่สุดนับเป็นพระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งในพระราชกรณียกิจทั้งหลาย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติต่อเนื่องมาอย่างสม่ำเสมอ
           2. หลักและวิธีการดำเนินงานต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ในด้านความเหมาะสมเกี่ยวกับสภาพแหล่งน้ำ ซึ่งจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมร่วมกับสภาพภูมิประเทศและความต้องการของราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพิจารณาวางโครงการพัฒนาแหล่งน้ำให้เหมาะสมกับสภาพแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่มีในแต่ละท้องถิ่นเสมอ กล่าวคือ จะทรงศึกษา คำนวณ สภาพของลำห้วย ณ บริเวณนั้นว่ามีปริมาณน้ำมากหรือน้อยเท่าใดก่อนทุกครั้ง เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับสภาพน้ำในการพิจารณาวางโครงการเบื้องต้นต่อไป และยังพิจารณาถึงความเหมาะสมในทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย ทรงเหลีกเลี่ยงการเข้าไปสร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับคนกลุ่มหนึ่ง และสร้างประโยชน์ให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะแบบนี้การทำงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำทุกที่จึงทรงมีพระราชดำริกับราษฎรในหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนช่วยเหลือเกื้อกูลกันภายในสังคมของตนเอง และมีความหวงแหนที่จะต้องดูแลรักษาบำรุงสิ่งก่อสร้างนั้นต่อไป
           3. ประเภทของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประเภทของโครงการ มีหลากหลายรูปแบบที่ช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนในด้านต่างๆกันออกไป ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม และมีประโยชน์ต่อประชาชนในบริเวณที่มีการจัดตั้งโครงการเป็นอย่างมาก
                3.1 แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภค เป็นโครงการที่มีมากกว่าโครงการประเภทอื่นๆ ในแต่ละท้องถิ่นจะมีลักษณะโครงการที่แตกต่างกันไปนั้น ต้องมีการวางแผนโครงการและก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและแหล่งงน้ำสำหรับแต่ละท้องถิ่นเสมอ
                   3.1.1 โครงการอ่างเก็บน้ำ งานสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำปิดกั้นลำน้ำระหว่างหุบเขาหรือลูกเนินจนสามารถเก็บน้ำได้มาก พร้อมกับสร้างอาคารระบายน้ำล้น เพื่อควบคุมระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำไม่ให้ล้นข้ามสันเขื่อน และสร้างท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่ตัวเขื่อนสำหรับส่งและควบคุมจำนวนน้ำที่จะส่งให้กับพื้นที่เพาะปลูก โครงการอ่างเก็บน้ำนิยมก่อสร้างกันอยู่ทั่วไป เพราะสามารถเก็บน้ำตอนฤดูน้ำหลากไว้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนเก็บสำรองไว้ใช้เมื่อถึงคราวจำเป็น
                       1) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรที่อาศัยตามหมู่บ้านต่างๆ ริมห้วยแม่ประจันต์ให้มีน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูกและการอุปโภค –บริโภคตลอดปี และยังช่วยระบายน้ำลงมาเสริมให้กับโครงการชลประทานเพชรบุรีในระยะที่ขาดน้ำ และช่วยเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วยฤดูน้ำนอง เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยของโครงการชลประทานเพชรบุรีไว้ได้ผลสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
                       2) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยอนตอนบน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ลำห้วยแม่ยอน เป็นลำน้ำสาขาของลำห้วยแม่วะ แม่น้ำจาง และอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำวัง ช่วยเหลือน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา ทั้งยังสามารถส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝน 1,679 ไร่ ฤดูแล้ง 200 ไร่ ราษฎร 2 หมู่บ้าน จำนวน 412 ครัวเรือน
                       3) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว จังหวัดตรัง เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำ ต้นน้ำบริเวณหุบเขาควนหินแก้ว เหนือน้ำตกหลาด่าน สำหรับเป็นแหล่งน้ำต้นทุนไว้ทำการเกษตรกรรม ใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำ สำหรับการอุปโภค – บริโภคในฤดูแล้ง และยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่ ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ ให้ดีขึ้นโดยการสนับสนุนแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของผลผลิตทางด้านการเกษตรกรรม อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อีกทั้งยังเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ต้นน้ำ เป็นแหล่งน้ำดินสำหรับการประปาของอำเภอห้วยยอดในอนาคต
                       4) โครงการอ่างเก็บน้ำผาน้ำหยดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี น้ำใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรกรรมได้ตลอดปี ประมาณ 400 ไร่ ช่วยบรรเทาอุทกภัยในฤดูฝน บริเวณลุ่มน้ำเพชรบุรีและบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด เพื่อบริโภคและเพิ่มรายได้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย
               3.1.2 โครงการฝายทดน้ำ เพื่อทดน้ำที่ไหลมาให้มีระดับสูงจนสามารถผันเข้าไปตามคลอง หรือคูส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกบริเวณสองฝั่งลำน้ำ ส่วนน้ำที่เหลือก็จะไหลล้นข้ามสันฝายไปเอง เราจะสามารถสร้างฝายปิดขวางลำน้ำธรรมชาติทุกแห่งได้ตามที่ต้องการ แต่การสร้างฝายจะให้เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกได้อย่างเต็มที่ ก็เฉพาะลำน้ำที่มีน้ำไหลมามากเพียงพอ และมีปริมาณสม่ำเสมอในฤดูกาลเพาะปลูก หากลำน้ำสายใดมีปริมาณน้ำไหลมาในอัตราที่ไม่แน่นอน การสร้างฝายก็จะไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ตามต้องการ
                       1) โครงการฝายทดน้ำบ้านฆอรอราแม จังหวัดยะลา สามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ให้แก่ราษฎรในหมู่ที่ 4 บ้านดือรัง บ้านมาแบ บ้านฆอรอราแม บ้านอุเบ็ง และราษฎรในหมู่ที่ 5 บ้านมูนุน บ้านบาจุ ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งมีจำนวนประชากรประมาณ 506 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 2,531 คน โรงเรียนจำนวน 2 แห่ง มัสยิด 5 แห่ง สุเหร่า 1 แห่ง สถานีอนามัย 1 แห่ง สถานีตำรวจ 1 แห่ง และมีพื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 4,320 ไร่ มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี
                       2)  โครงการฝายแม่งาวพร้อมระบบส่งน้ำบ้านประชาภักดี จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับทำการเกษตรทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้งและยังเป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคของราษฎร จำนวน 2 หมู่บ้าน ทำให้ราษฎร จำนวน 2 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านประชาภักดี หมู่ที่ 25 และ บ้านราษฎรภักดี หมู่ที่ 10 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย รวม 339 ครัวเรือน 2,900 คน                                                                                             3) โครงการฝายคลองช่องเรือ ( อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ) เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค - บริโภคช่วงฤดูแล้งให้มีน้ำอุปโภค - บริโภคได้เพียงพอ ตลอดปีและสามารถเพาะปลูกตามแนวท่อส่งน้ำได้ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านใหญ่ หมู่ที่ 2 บ้านหลวงจันทร์ หมู่ที่ 3 บ้านทรายขาวออก หมู่ที่ 5บ้านทรายขาวตก ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี จำนวน 526 ครัวเรือน
           3.2 แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการรักษาต้นน้ำลำธาร เป็นโครงการสร้างฝายขนาดเล็กเป็นระยะๆ ทางต้นน้ำของลุ่มน้ำต่างๆ เพื่อเก็บน้ำไว้ในลำน้ำคล้ายกับอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก เพื่อให้น้ำที่เก็บกักไว้ซึมเข้าไปในดินตามตลิ่งและท้องน้ำ เป็นการช่วยเพิ่มจำนวนน้ำให้ถูกเก็บกักไว้ในดินที่บริเวณต้นน้ำลำธาร เพื่อความชุ่มชื้นของพื้นที่ให้ได้ระยะเวลานานขึ้น ซึ่งจะช่วยในการอนุรักษ์ป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธารได้เป็นอย่างดี ฝายต้นน้ำลำธาร เพื่อชะลอการไหลของน้ำจากแหล่งต้นน้ำลำธาร ไม่ให้ไหลหลากอย่างรวดเร็ว และทำหน้าที่ในการดักตะกอนหน้าดิน มิให้ไหลปนไปกับกระแสน้ำจนทำให้น้ำมีความขุ่นข้น และไปทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติที่อยู่ด้านล่างต้องตื้นเขิน
           3.3 แนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้า สำหรับชนบทที่อยู่ห่างไกลเช่นกัน ได้พระราชทานพระราชดำริให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาวางโครงการและจัดการก่อสร้างโครงการพัฒนา แหล่งน้ำ เพื่อการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กในชนบทหลายแห่งในภาคเหนือ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ ประกอบด้วยงานสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ โดยสภาพภูมิประเทศบริเวณที่จะสร้างเขื่อนและโรงผลิตกระแสไฟฟ้านั้น ต้องมีระดับความสูงแตกต่างกันมาก ซึ่งน้ำที่ส่งลงมาตามท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำในระดับสูงนั้นสามารถหมุนเครื่องกังหันสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าได้ และน้ำที่ผ่านการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นก็นำไปใช้ในการเพาะปลูกและการอุปโภค บริโภคต่อไปอีก
           3.4 หลักการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่ม โครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
               3.4.1 การก่อสร้างคันกั้นน้ำ เป็นวิธีป้องกันน้ำท่วมที่นิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ กรมชลประทานได้ก่อสร้างสนองพระราชดำริไว้หลายแห่ง เช่น ที่ภาคใต้ คันกั้นน้ำของโครงการมู-โนะ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคันกั้นน้ำของโครงการปิเหล็ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาสเป็นต้น สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กรมชลประทาน กรมทางหลวง และกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันก่อสร้างคันกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมบริเวณต่างๆ ในโครงการป้องกันน้ำจากแม่น้ำน้ำเจ้าพระยา และน้ำตามคลองโดยรอบกรุงเทพมหานครทางด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออก ไม่ให้ไหลบ่าเข้ามาท่วมกรุงเทพฯ ชั้นในและพื้นที่เศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
               3.4.2 การก่อสร้างทางผันน้ำ เป็นการก่อสร้างทางผันน้ำ หรือขุดคลองสายใหม่เชื่อมต่อกับลำน้ำที่มีปัญหาน้ำท่วม เพื่อผันน้ำทั้งหมดหรือน้ำเฉพาะบางส่วนที่จะล้นตลิ่ง ออกไปจากลำน้ำ โดยให้ไหลไปตามทางผันน้ำที่ขุดขึ้นใหม่ไปลงลำน้ำสายอื่น หรือระบายออกสู่ทะเลตามความเหมาะสม การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยการก่อสร้างทางผันน้ำนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อ พ..2517 ให้กรมชลประทานพิจารณาแก้ไขปัญหาน้ำจากแม่น้ำโก-ลก ที่กั้นชายแดนประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย กรมชลประทานได้ขุดคลองมูโนะสนองพระราชดำริเมื่อ พ..2518 มีขนาดก้นคลองกว้าง 20 เมตร คลองยาว 15.60 กิโลเมตร และได้ช่วยบรรเทาน้ำท่วมให้ลดลงได้
               3.4.3 การปรับปรุงและตกแต่งสภาพลำน้ำ เป็นการปรับปรุงและตกแต่งลำน้ำ เพื่อช่วยให้น้ำ สามารถไหลตามลำน้ำได้สะดวก หรือเพื่อให้กระแสน้ำที่ไหลมีความเร็วเพิ่มขึ้น เพื่อที่ในฤดูน้ำหลาก น้ำจำนวนมากที่ไหลจะได้มีระดับลดต่ำลงไปจากเดิม เป็นการช่วยบรรเทาความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วมได้ โดยการปรับปรุงและตกแต่งลำน้ำ  เพื่อช่วยให้น้ำสามารถไหลไปตามลำน้ำได้สะดวกหรือมีความเร็วของกระแสน้ำที่ไหลเพิ่มมากขึ้นเพื่อที่ในฤดูน้ำหลากน้ำจำนวนมากที่ไหลตามลำน้ำจะได้มีระดับลดต่ำไปจากเดิมเป็นการช่วยบรรเทาความเสียหายอันอาจจะเกิดเนื่องมาจากน้ำท่วมได้
               3.4.4 การก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ ประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานเป็นหลัก  และเพื่อประโยชน์ต่างๆแบบอเนกประสงค์โดยที่อ่างเก็บน้ำทุกแห่งเหล่านั้นจะทำหน้าที่เก็บน้ำซึ่งไหลมามากในฤดูฝนไว้และช่วยบรรเทาการเกิดน้ำท่วมที่อาจทำความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกและชุมชนซึ่งอยู่ทางด้านท้ายเขื่อนได้ด้วย
                       1) เขื่อนเก็บกักน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล สร้างปิดกั้นลำน้ำแม่งัด ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่มีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 265 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานและการผลิตไฟฟ้าเป็นหลักสำหรับการบรรเทาน้ำท่วมอ่างเก็บน้ำแห่งนี้สามารถช่วยบรรเทาน้ำท่วมในเขตพื้นที่เพาะปลูกสองฝั่งลำน้ำแม่งัดและแม่น้ำปิงจนถึงตัวเมืองเชียงใหม่ซึ่งเคยเกิดขึ้นเป็นประจำให้หมดไป
                       2) เขื่อนเก็บกักน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสร้างปิดกั้นแม่น้ำปิงที่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 13,460 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อประโยชน์ในด้านการผลิตไฟฟ้า การชลประทานการคมนาคมทางน้ำฯลฯสำหรับในด้านการบรรเทาน้ำท่วมที่เคยทำความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกในบริเวณพื้นที่ลุ่มสองฝั่งแม่น้ำปิงและแม่น้ำเจ้าพระยาเสมอนั้นอ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพลที่มีขนาดใหญ่นี้ช่วยเก็บกักน้ำที่ไหลหลากตอนฤดูฝนตกหนักไว้ไม่ให้ไหลเทลงมาทันทีทันใดจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันแล้วทำความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกซึ่งเป็นที่ลุ่มดังแต่ก่อน
                       3) เขื่อนเก็บกักน้ำสิริกิติ์และอ่างเก็บน้ำ สร้างปิดกั้นแม่น้ำน่านที่อำเภอท่าปลาจังหวัดอุตรดิตถ์ มีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 9,550 ล้านลูกบาศก์เมตร   เพื่อประโยชน์ในด้านการผลิตไฟฟ้า   การชลประทาน การคมนาคมทางน้ำ ฯลฯสำหรับในด้านการบรรเทาอุทกภัยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้สามารถลดอุทกภัยที่เคยเกิดขึ้นทุกปีในบริเวณทุ่งราบสองฝั่งแม่น้ำน่านในเขตหลายจังหวัดได้เกือบทั้งหมด และยังร่วมกับอ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพล ช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขตทุ่งราบแม่น้ำเจ้าพระยาให้ลดน้อยลงด้วย
                       4) เขื่อนเก็บกักน้ำอุบลรัตน์และอ่างเก็บน้ำ สร้างปิดกั้นลำน้ำพองที่อำเภอน้ำพองจังหวัดขอนแก่น มีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 2,550 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อประโยชน์ในด้านการผลิตไฟฟ้าและการชลประทานเป็นหลักสำหรับการบรรเทาน้ำท่วม อ่างเก็บน้ำแห่งนี้สามารถบรรเทาน้ำท่วมที่เคยเกิดเป็นประจำในบริเวณที่ราบสองฝั่งลำน้ำพองในเขตจังหวัดขอนแก่นให้ลดน้อยลงได้
                       5) เขื่อนเก็บกักน้ำลำปาวและอ่างเก็บน้ำ สร้างปิดกั้นลำน้ำปาวที่ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 1,340 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานเป็นหลัก ในด้านการบรรเทาน้ำท่วม อ่างเก็บน้ำแห่งนี้สามารถบรรเทาน้ำท่วมที่เคยเกิดเป็นประจำในบริเวณที่ราบสองฝั่งลำน้ำปาวในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ให้ลดน้อยลงได้เช่นกัน
                       6) เขื่อนเก็บกักน้ำศรีนครินทร์และอ่างเก็บน้ำสร้างปิดกั้นแม่น้ำแควใหญ่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์   จังหวัดกาญจนบุรี  มีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตรกับเขื่อนเก็บกักน้ำเขาแหลมและอ่างเก็บน้ำซึ่งสร้างปิดกั้นแม่น้ำแควน้อยที่อำเภอทองผาภูมิ  จังหวัดกาญจนบุรีมีความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 7,450 ล้านลูกบาศก์เมตรการก่อสร้างโครงการทั้งสองนี้ให้ประโยชน์มากในด้านการผลิตไฟฟ้า  การชลประทาน การคมนาคมทางน้ำ ฯลฯสำหรับในด้านการบรรเทาน้ำท่วมที่เคยทำความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูกตามบริเวณพื้นที่ลุ่มสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองทุกปีนั้นอ่างเก็บน้ำทั้งสองสามารถเก็บกักน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลหลากตอนฤดูฝนตกหนักจากแควทั้งสองไว้ได้น้ำจำนวนมากจึงไม่ไหลเทลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมแล้วทำความเสียหายให้กับเขตชุมชนและพื้นที่เพาะปลูกซึ่งเป็นที่ลุ่มตามสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง
           3.5 หลักการของการระบายน้ำแก้มลิง การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลตามพระราชดำริ แก้มลิง
               3.5.1 โครงการแก้มลิงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รับน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร มาตามคลองสายต่างๆ โดยใช้คลองชายทะเลที่ตั้งอยู่ริมทะเลด้านจังหวัดสมุทรปราการ ทำหน้าที่เป็นบ่อพักน้ำหรือรับน้ำ
               3.5.2 โครงการแก้มลิงในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำหน้าที่รับน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม กรุงเทพ มหานคร และสมุทรสาคร ไปลงคลองมหาชัย-สนามชัย และแม่น้ำท่าจีน เพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเลด้านจังหวัดสมุทรสาคร โครงการแก้มลิงที่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ ต้องดำเนินการครบระบบ ๓ โครงการด้วยกัน ดังนี้
                       1) โครงการแก้มลิง “แม่น้ำท่าจีนตอนล่างการก่อสร้าง ประตูระบายน้ำพร้อมด้วยสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ ปิดกั้นแม่น้ำท่าจีนที่เหนือบริเวณที่ตั้งจังหวัดสมุทรสาครขึ้นไปตามความเหมาะสม ซึ่งในฤดูน้ำหลากประตูระบายน้ำนี้จะทำหน้าที่บังคับ ควบคุมน้ำในแม่น้ำท่าจีน โดยเปิดระบายน้ำจำนวนมากให้ไหลลงสู่อ่าวไทย ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกเมื่อน้ำทะเลมีระดับต่ำ
                       2) โครงการแก้มลิง “คลองมหาชัย-คลองสนามชัยทำหน้าที่รับน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านพื้นที่บางส่วนของกรุงเทพมหานครและสมุทรสาครตอนบนไปลงคลองมหาชัย – คลองสนามชัย และ แม่น้ำท่าจีน เพื่อระบายออกสู่ทะเลด้านจังหวัดสมุทรสาคร
                       3) โครงการแก้มลิง “คลองสุนัขหอนเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชาวไทยทั้งหลายได้รอดพ้นจากทุกข์ภัยที่นำความเดือดร้อนแสนลำเค็ญมาสู่ชีวิตที่อบอุ่นปลอดภัย 
           3.6  วิธีการบำบัดน้ำเสีย พระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันทดลองหาวิธีแก้ไข และบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการง่ายๆ และเหมาะสม ขณะนี้การลำบัดน้ำเสียตามแนวพระราชดำริด้วยวิธีการต่างๆ ได้ส่งผลเป็นที่น่าพอใจและกำลังเผยแพร่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศมากขึ้น
               3.6.1 การบำบัดน้ำเสียโดยการทำให้เจือจาง หรือ “น้ำดีไล่น้ำเสียหลักการ แก้ไข โดยใช้น้ำที่มีคุณภาพดีจากแม่น้ำเจ้าพระยาช่วยผลักดัน และเจือจางน้ำเน่าเสียให้ออกจากแหล่งน้ำของชุมชน ในเขตเมือง ตามคลองต่างๆ เช่น คลองบางเขน คลองบางซื่อ คลองแสนแสบ คลองเทเวศร์และคลองบางลำภู เป็นต้น วิธีนี้จะกระทำได้ด้วยการเปิด-ปิดประตูอาคารควบคุมน้ำ รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงจังหวะน้ำขึ้น และระบายน้ำสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวะน้ำลง ผลก็คือตามลำคลองต่างๆ มีโอกาสไหลถ่ายเทหมุนเวียนกันมากขึ้น น้ำก็จะกลับกลายเป็นน้ำที่มีคุณภาพ ด้วยวิธีธรรมชาติง่ายๆ
               3.6.2 การบำบัดน้ำเสียโดยการ กรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา หรือ “ไตธรรมชาติพระราชดำริในการบำบัดน้ำเสียของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยทรงเปรียบเทียบว่า “ บึงมักกะสัน ” เป็นเสมือน “ ไตธรรมชาติ ” ของกรุงเทพมหานครที่เก็บกักและฟอกน้ำเสีย ตลอดจนเป็นแหล่งกักเก็บและระบายน้ำในฤดูฝน และโปรดเกล้าฯ ให้มีการทดลองใช้ผักตบชวา ซึ่งเป็นวัชพืชที่ต้องการกำจัดอยู่แล้วมาช่วยดูดซับความสกปรกปนเปื้อน รวมตลอดทั้งสารพิษต่างๆ จากน้ำเน่าเสีย ประกอบเข้ากับเครื่องกลบำบัดน้ำเสียแบบต่างๆ ที่ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเอง โดยเน้นวิธีการที่เรียบง่าย ประหยัดอีกด้วย
               3.6.3 การบำบัดน้ำเสียโดยกระบวนการทางชีววิทยาผสมผสานกับเครื่องกลเติมอากาศแบบ “สระเติมอากาศชีวภาพบำบัดบึงพระราม 9 เป็นบึงขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ130 ไร่ มีความยาวถึง 1,300 เมตร ตั้งอยู่ในเขตที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ติดกับคลองลาดพร้าวบรรจบกับคลองแสนแสบในท้องที่เขตห้วยขวาง ซึ่งมีปัญหาภาวะมลพิษ น้ำเน่าเสียอย่างรุนแรงและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ โดยมีพระราชดำริว่าการใช้วิธีการทางธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียว ไม่พอเพียงในการบำบัดน้ำเสียให้ดีขึ้น จำเป็นต้องใช้เครื่องเติมอากาศในน้ำ โดยทำเป็นสระเติมอากาศ ซึ่งเป็นการใช้เครื่องจักรกลเติมอากาศมาช่วยเพิ่มออกซิเจนละลายน้ำ เพื่อให้แบคทีเรียชนิดที่ออกซิเจนช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสียแบบสระเติมอากาศ สามารถบำบัดน้ำเสียได้ดีกว่าบ่อเขียวที่ใช้ออกซิเจนตามธรรมชาติจากพืชน้ำ และสาหร่าย
               3.6.4 หลักการบำบัดน้ำเสียด้วยการผสมผสานระหว่างพืชน้ำกับระบบการเติมอากาศ พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็วเกี่ยวกับปัญหาน้ำเน่าเสียที่ปล่อยลงหนองหาน และหนองสนม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร การบำบัดน้ำเสียที่หนองหานกระทำได้โดยให้รวบรวมน้ำเสียจากชุมชนในเขตเทศบาลที่ระบายลงในหนองหาน ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตน้ำประปา ให้จัดการโครงการบำบัดน้ำเสียโดยวิธีธรรมชาติผสมผสานกับเทคโนโลยีแบบประหยัด เพื่อสามารถรองรับการระบายด้วยชุมชนเทศบาลเมืองในอนาคต ระบบบำบัดน้ำเสียประกอบด้วยท่อรับน้ำเสียในเขตเทศบาลเมืองมาเข้าระบบบำบัดน้ำเสียในบ่อผึ่ง โดยมีลานก้อนกรวดเพื่อทำหน้าที่กรองสารแขวนลอยและช่วยเติมออกซิเจนให้กับน้ำเสีย ตลอดจนช่วยให้เกิดจุลินทรีย์เกาะที่ก้อนกรวด ส่งผลให้มีการย่อยสารอินทรีย์ที่มีอยู่ในน้ำเสียให้ลดลงได้ก่อนน้ำเสีย ผ่นตะแกรงกระบะเพื่อรองรับเศษขยะ
               3.6.5 หลักการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบบ่อบำบัดน้ำเสียและวัชพืชบำบัดที่แหลมผักเบี้ย โครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อม แหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการศึกษาวิจัยวิธีการบำบัดน้ำเสีย กำจัดขยะมูลฝอยและการรักษาสภาพป่าชายเลนด้วยวิธีธรรมชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ประกอบด้วยมูลนิธิชัยพัฒนา การบำบัดน้ำเสีย และการกำจัดขยะมูลฝอยที่ประเทศออสเตรเลีย โดยศึกษารูปแบบ และวิธีการมาปรับปรุงใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย พระองค์ได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเห็นด้วย กับคณะทำงานที่จะบำบัดน้ำเสียที่ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี โดยการสร้างท่อระบายน้ำ รวบรวมน้ำเสียมารวมกันที่คลองยาว ที่จุดนี้ทำหน้าที่เป็นบ่อดักขยะ แยกถุงพลาสติก เศษผ้า เศษไม้ และตกตะกอนสารแขวนลอยขนาดใหญ่เพื่อลดความสกปรก และลดการทำงานของเครื่องปั๊มแล้วสูบน้ำเสีย จากคลองยาว มาบำบัดที่แหลมผักเบี้ย
               3.6.6 การบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการเติมอากาศ “กังหันน้ำชัยพัฒนากังหันชัยพัฒนา เป็นกังหันน้ำเพื่อบำบัดน้ำเสียด้วย วิธีการหมุนปั่นเติมอากาศให้น้ำเสียกลายเป็นน้ำดี เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำแก่ปวงชน สามารถประยุกต์ใช้บำบัดน้ำเสีย จากการอุปโภคของประชาชน น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งเพิ่มออกซิเจน ให้กับบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางการเกษตร กังหันน้ำชัยพัฒนาสร้างขึ้น เพื่อการแก้มลพิษทางน้ำซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในหลายพื้นที่วิวัฒนาการของกังหันน้ำชัยพัฒนานั้น เริ่มจากการสร้างต้นแบบได้ครั้งแรกในปี ๒๕๓๒ แล้วนำไปติดตั้งยังพื้นที่ทดลองเพื่อแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน
               3.6.7 การบำบัดน้ำเสีย โดยกระบวนการทางฟิสิกส์ สารเร่งตกตะกอนการบำบัดน้ำเสียด้วย PAC นี้ ได้รับผลดีเป็นที่น่าพอใจยิ่ง ด้วยวิธีการขจัดน้ำขุ่น ได้ดีกว่าสารส้มถึง ๓ เท่า และไม่เกิด ความเสียหายใดดังที่เกิดจากสารส้ม กอปรกับตกตะกอนได้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายมาก จึงนับเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สามารถ เข้ามามีบทบาทในกระบวนการ Recycle ที่สำคัญยิ่งที่จะนำน้ำเสียกลับมาใช้ประโยชน์ ได้อีกในอนาคต
           3.7 แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำแห้งแล้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีปรีชาสามารถ พระราชอัจฉริยภาพส่วนพระองค์ในการแก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง และการขาดแคลนน้ำเพื่อเกษตรกรรม โดยดำเนินการตาม แนวทฤษฎีใหม่ ขณะเดียวกันก็มีน้ำไว้ใช้ตลอดปี เป็นการอำนวยประโยชน์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน รูปแบบของทฤษฎีใหม่นี้ เกษตรกรจะแบ่งสัดส่วนพื้นที่ที่ดินโดยถัวเฉลี่ยประมาณ 15 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าว 5 ไร่ พืชไร่และพืชสวน 5 ไร่ สระน้ำ 3 ไร่ (ลึกประมาณ 4 เมตร) และที่อยู่อาศัยอื่นๆ 2 ไร่ ทฤษฎีใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายให้เกษตรกรมีความพอเพียง แบบเลี้ยงตัวเองได้ โดยใช้จ่ายประหยัดและมีความสามัคคีในท้องถิ่น
               3.7.1 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้เพื่อการเกษตร การอุปโภค-บริโภค และขาดน้ำสนับสนุนการพัฒนาด้านอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้งเป็นประจำทุกปี บรรเทาปัญหาการเกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำป่าสักและลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง
               3.7.2 เขื่อนขุนด่านปราการชล บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุน โดยสามารถจัดสรรน้ำให้พื้นที่ชลประทาน ได้ 185,000 ไร่ ด้วยโครงการท่าด่านเดิม 6,000 ไร่ โครงการท่าด่านส่วนขยาย 14,000 ไร่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครนายก 165,000 ไร่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม และยังบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตจังหวัดนครนายก สามารถแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวในเขตจังหวัดนครนายกได้อีกด้วย
               3.7.3 โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง การพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการเกษตร การอุปโภค-บริโภค และกิจกรรมอื่นๆ  อีกทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมถึงเพื่อจัดการการใช้ที่ดินอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันการรุกตัวของน้ำเค็มไม่ให้ไหลเข้าแม่น้ำปากพนังและลำน้ำสาขาใน ช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเกิดจากการสร้างประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ และประตูระบายน้ำอื่นๆ ซึ่งทำหน้าควบคุมและป้องกันไม่ให้น้ำเค็มรุกตัวเข้ามา จึงทำให้น้ำในแม่น้ำปากพนังช่วงเหนือประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิเป็นน้ำจืดที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกสองฝั่งลำน้ำประมาณ 521,500 ไร่ ในฤดูฝน และ 240,000 ไร่ ในฤดูแล้ง
  4. ประโยชน์ของโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากการที่ส่วนราชการต่างๆ ได้ก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสนองพระราชดำริมาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริสามารถให้ประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติเป็นส่วนรวม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในด้านต่างๆ โดยสรุป ดังนี้
               1) พื้นที่เพาะปลูกจำนวนมากในเขตโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเพาะปลูกอันเนื่องมา จากพระราชดำริ มีน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์ สามารถทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน ฤดูแล้ง ช่วยให้ราษฎรในท้องที่ต่างๆ ซึ่งแต่เดิมทำการเพาะปลูกไม่ค่อยได้ผล แม้กระทั่งการทำนาปี ส่วนในฤดูแล้งทำการเพาะปลูกไม่ได้เลย เนื่องจากขาดแคลนน้ำเพราะต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลักสามารถทำการเพาะปลูกในฤดูฝนได้ผลผลิตมากขึ้น และมีความแน่นอน นอกจากนั้น ยังมีน้ำให้ทำการเพาะปลูกในระยะฤดูแล้งได้อีกด้วย
               2) ในท้องที่บางแห่งซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยมีน้ำท่วมขังจนไม่สามารถใช้ทำการเพาะปลูกได้ หรือ ทำการเพาะปลูกไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร โครงการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ช่วยให้พื้นที่ต่างๆ เหล่านั้นสามารถใช้ทำการเพาะปลูกอย่างได้ผล ได้ผลผลิตสูงขึ้นและมีความแน่นอน ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น
               3) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งอ่างเก็บน้ำเหล่านั้นทางกรมประมงได้นำพันธุ์ปลา และพันธุ์กุ้งไปปล่อยไว้ทุกอ่างตามความเหมาะสม และอ่างเก็บน้ำใดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการ จะทรงปล่อยพันธุ์ปลา และอาจจะมีพันธุ์กุ้งด้วยเกือบทุกครั้ง ทำให้ราษฎรตามหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ นอกจากจะมีอาหารปลาสำหรับบริโภคภายในครอบครัวแล้ว ราษฎรบางรายอาจจะมีเหลือนำไปขายเป็นรายได้เสริมหรือรายได้หลักของครอบครัวอีกด้วย
               4) ช่วยส่งเสริมให้ราษฎรในเขตโครงการต่าง ๆ มีน้ำเพื่อการอุปโภค - บริโภคอย่างเพียงพอ ตลอดปี รวมทั้งสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย
               5) พื้นที่เพาะปลูกและเขตชุมชนหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตชุมชนเมืองใหญ่ๆ ย่อม มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำท่วมหรืออุทกภัยอยู่เนืองๆ ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลเป็นอันมาก โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประเภทโครงการบรรเทาอุทกภัยสามารถช่วยลดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจดังกล่าว ให้ลดน้อยลงไปได้เป็นอย่างมาก เช่น บริเวณทุ่งฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
               6) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริจะช่วยให้ ราษฎรตามชนบทที่อยู่ตามป่าเขา หรือในท้องที่ทุรกันดาร ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเขตชุมชนได้มีไฟฟ้าใช้สำหรับให้แสงสว่างในครัวเรือน ทำให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และหากราษฎรทั้งหมู่บ้านสามารถร่วมมือกันก่อสร้างโรงสีข้าวชนิดใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กขึ้น ซึ่งจะใช้ไฟฟ้าสีข้าวในเวลากลางวันได้
               7) ช่วยส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมด้านเกษตรอุตสาหกรรม ตามหมู่บ้านชนบทมากขึ้นโดยใช้ ผลิตผลเกษตรที่ได้จากหมู่บ้านซึ่งสามารถจะควบคุมได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ มาทำการผลิตได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งผลิตภัณฑ์เกษตรอุตสาหกรรมดังกล่าว จะเป็นสินค้าออกของประเทศได้เป็นอย่างดี
               8) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการจัดหาน้ำ สนับสนุนราษฎรชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ ให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง โดยมีน้ำสำหรับการเพาะปลูกไม้เมืองหนาว และพืชเมืองหนาว รวมทั้งการปลูกข้าว เพื่อทดแทนการบุกรุกทำลายป่าบริเวณต้นน้ำลำธารสำหรับทำไร่เลื่อนลอย และปลูกฝิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือนั้น จะช่วยรักษาพื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของชาติไว้ และเป็นการกำจัดแหล่งผลิตฝิ่นภายในประเทศ ซึ่งเป็นต้นตอของยาเสพติดของประเทศพร้อมกันไปด้วย
               9) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการรักษาต้นน้ำลำธารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยการสร้างฝายเก็บกักน้ำบริเวณต้นน้ำลำธารเป็นชั้น ๆ พร้อมระบบกระจายน้ำจากฝายต่าง ๆ ไปสู่พื้นที่สองฝั่งของลำธาร ทำให้พื้นดินสองฝั่งลำธารชุ่มชื้น และป่าไม้ตามแนวสองฝั่งลำธารเขียวชอุ่มตลอดปี ลักษณะเป็นป่าเปียกสำหรับป้องกันไฟเป็นแนวๆ กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณต้นน้ำลำธารนั้น จะช่วยอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์ไว้ต่อไป
               10) ราษฎรในชนบทที่อยู่ในเขตโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริจะมีรายได้สูงขึ้น มีการอยู่ดีกินดี โดยอาจมีรายได้หลักจากการเพาะปลูก และมีรายได้เสริมจากการประมง การเลี้ยงสัตว์ หรือการเกษตรอุตสาหกรรม นอกจากนั้น ยังมีน้ำเพื่อการอุปโภค - บริโภคตลอดปีอีกด้วย ทำให้สังคมในหมู่บ้านชนบทมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และราษฎรประกอบอาชีพโดยสุจริตอย่างผาสุกกว่าแต่ก่อน เมื่อราษฎรในชนบทมีฐานะดีขึ้น ย่อมสามารถสนับสนุนให้บุตรหลานเข้ารับการศึกษาได้ในระดับสูงกว่าแต่ก่อน เป็นการยกระดับความรู้ของเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังของชาติ และยกระดับสังคมในชนบทขึ้นอีกด้วย อันจะเป็นการพัฒนาบุคคลหรือสังคมของชาติโดยส่วนรวมต่อไป

7.  ข้อเสนอแนะ
           ผลการศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทานก่อให้เกิดประโยชน์และอาจเป็นแนวทางในการค้นคว้าต่อไป ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะ ดังนี้
           1. ควรศึกษาตัวอย่างโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการพระราชกรณียกิจด้านวิศวกรรมแหล่งน้ำและชลประทานเพิ่มเติม
           2. นำความรู้ที่ได้และผลการศึกษาไปเผยแพร่ให้สาธารณชนได้เข้าใจ และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันจนเกิดประโยชน์ได้

           3. ในตอนแรกของการทำโครงงาน ไม่รู้วิธีทำอย่างละเอียดจึงทำให้การทำโครงงานมีปัญหา แต่หลังจากได้อาจารย์ที่ปรึกษาคอยแนะนำวิธีการทำ จึงทำให้เกิดความรู้และสามารถทำโครงงานได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น